บทความ

“บ้าน” เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่สำคัญสำหรับทุกคน นอกจากประโยชน์ใช้สอย ความสวยงาม และบรรยากาศแล้ว หลักฮวงจุ้ยหรือการสร้างสภาพแวดล้อมให้บ้านเต็มไปด้วยพลังบวกก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำความสำเร็จ ความมั่งคั่ง และความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังสร้างบ้านใหม่หรือกำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นมงคลและเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของชีวิต แน่นอนว่าจะย้ายเข้าบ้านใหม่ทั้งที  ทุกท่านย่อมต้องการให้บ้านมีแต่พลังงานบวก ซึ่งคุณเองก็สามารถเริ่มต้นสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความสุขและสบายใจด้วยการมอบพลังงานบวกให้กับบ้านได้ด้วยตนเองอย่างง่าย ๆ ดังนี้ วิธีสร้างพลังบวกให้กับบ้านที่คุณเองก็ทำได้ จัดประตูหน้าบ้านให้สวยงามประตูหน้าบ้านคือสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง จึงไม่ควรปิดทึบหรือปล่อยให้มีข้าวของวางระเกะระกะ ควรเคลียร์บริเวณประตูบ้านให้เปิดโล่ง นอกจากนี้ การวางต้นไม้ขนาบสองข้างของประตูและเพิ่มแสงสว่างให้มากเพียงพอยังเป็นการเพิ่มพลังงานบวก ช่วยดึงดูดทรัพย์เข้าบ้าน และทำให้บ้านดูสวย น่ามองอีกด้วย เปิดรับแสงธรรมชาติให้มากที่สุดแสงธรรมชาติจะช่วยเสริมพลังบวกและเพิ่มความน่าอยู่อาศัยให้กับตัวบ้าน ดังนั้น ควรเปิดหน้าต่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรับแสงจากภายนอก เพิ่มการหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก นอกจากจะเป็นการเปิดรับพลังงานดีแล้ว ยังช่วยให้บ้านอบอุ่น โปร่ง โล่ง อยู่สบาย จัดพื้นที่สีเขียวบ้านที่ดีควรประกอบไปด้วยพื้นที่สีเขียวอย่างการจัดสวนโอบล้อมบ้านหรือปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงา โดยต้นไม้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงาม การมีต้นไม้จะช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน การใช้ชีวิต และเงินทอง ทั้งยังช่วยเพิ่มความสดชื่น ความร่มเย็น ความผ่อนคลาย และความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ตัวบ้านเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับบ้านใหม่ด้วยการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือหรือวัตถุมงคลเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเปลี่ยนพลังงานร้ายให้กลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์ ช่วยให้พื้นที่ภายในบ้านของคุณมีความศักดิ์สิทธิ์ ร่มเย็น สร้างความเชื่อมั่น อยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ ทำความสะอาดบ้านใหม่แน่นอนว่าบ้านใหม่ทุกหลังย่อมเต็มไปด้วยเศษฝุ่น เศษปูนซีเมนต์ คราบสกปรกที่หลงเหลือจากการก่อสร้าง และจำเป็นที่จะต้องได้รับการทำความสะอาด …

ทำความสะอาดบ้านใหม่ ที่เพิ่งย้ายเข้าไป ให้กลายเป็นที่ที่มีแต่พลังบวก อ่านต่อ »

ปัญหาเรื่องรอยร้าวเป็นปัญหาที่แทบทุกบ้านจะต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงบ้านร้าว ผนังบ้านร้าว ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างความรำคาญใจไปจนถึงความกลัวให้เกิดแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยได้ รอยร้าวที่เห็นว่าเล็ก ๆ บางครั้งก็แค่ทำให้บ้านหรืออาคารดูไม่สวย รกหูรกตา แต่บางครั้งปัญหากำแพงบ้านร้าว ผนังบ้านร้าวก็อาจนำมาซึ่งปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างที่อาจทำให้บ้านทรุด พัง หรือถล่มลงมาได้ ผนังบ้านร้าว เกิดจากอะไร ? ปัญหาผนังบ้านร้าวหรือกำแพงบ้านร้าวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่สาเหตุเล็ก ๆ อย่างการใช้บริการช่างที่ไม่มีความชำนาญในด้านการฉาบและผสมปูน การใช้ปูนที่ไม่ได้มาตรฐาน การผสมปูนที่ไม่ได้สัดส่วน ปัญหาปูนตายหรือการทิ้งระยะเวลาระหว่างการผสมปูนฉาบกับการทำงานไว้นานเกินไป การฉาบปูนหนาเกินไป สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงการที่คานด้านบนของกำแพงรับน้ำหนักมากเกินไป หรือการที่เสาบ้านบางต้นทรุดตัว จึงทำให้คานที่รับน้ำหนักบนเสาไม่สามารถต้านน้ำหนักเอาไว้ได้ดีเหมือนเดิม สาเหตุเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของอาการผนังบ้านร้าว กำแพงบ้านร้าวทั้งสิ้น รอยร้าว ระดับไหน ? ถึงควรเรียกช่าง จะทราบได้อย่างไรว่ารอยร้าวระดับไหนถึงควรเรียกช่าง? จริง ๆ แล้วรอยร้าวแต่ละแบบนั้นสามารถบอกปัญหาของบ้านหลังนั้น ๆ ได้ ดังนั้น คุณก็สามารถสังเกตความรุนแรงของปัญหาได้ด้วยตนเอง รอยแตกร้าวลายงา ผนังบ้านร้าว กำแพงบ้านร้าวที่มีลักษณะเป็นรอยร้าวแตกลายงาเส้นเล็ก ๆ ตามผนังปูนฉาบเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ปูนฉาบที่ไม่ได้มาตรฐาน ช่างฉาบปูนไม่มีความชำนาญ หรือเร่งฉาบปูนเกินไปเมื่อก่ออิฐเพิ่งเสร็จ ฯลฯ รอยแตกร้าวลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่มักจะสร้างความหงุดหงิดใจเพราะทำให้บ้านหรืออาคารดูเก่า ไม่น่าดู และอาจนำมาซึ่งปัญหาน้ำรั่วซึมผนังบ้านได้ จึงควรรีบซ่อมแซมให้เร็วที่สุด รอยแตกร้าวในแนวเฉียงที่กลางผนัง …

กำแพงบ้านร้าว ผนังบ้านร้าว เกิดจากอะไร ?? ระดับไหนถึงต้องเรียกช่าง อ่านต่อ »

ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้บ้านหรืออาคารดูสวยสดใสอยู่เสมอก็คือ “สีสัน” บ้านหรืออาคารไหนที่มีสีซีดจาง โป่งพอง หรือลอกล่อนก็จะทำให้ดูเก่าโทรม หมอง ไม่สดใส ไม่เชิญชวนให้มองหรือเยี่ยมเยือน แต่หากบ้านหรืออาคารไหนที่มีการรีโนเวท ทาสีภายนอกให้ใหม่อยู่เสมอก็จะทำให้ดูสวยงาม น่ามอง สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อเจ้าของ และยังส่งผลดีในด้านธุรกิจอีกด้วย สำหรับการเลือกสีเพื่อการทาสีภายนอกควรจะเน้นที่คุณสมบัติความทนทานเป็นหลัก เพราะจะต้องเผชิญทั้งแดด ลม ฝน มลภาวะ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่แทบจะตลอดเวลา แล้วจึงค่อยพิจารณาคุณสมบัติด้านอื่น ๆ เช่น ความสามารถในปกป้องเชื้อรา ความสามารถในการสะท้อนความร้อนออกจากตัวบ้าน และเฉดสีที่ต้องการ ฯลฯ โดยขั้นตอนการทาสีภายนอกเองก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้สีติดทนนาน ไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ๆ โดยควรใส่ใจตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวไปจนถึงการทาสีภายนอก การทาสีภายนอกให้เรียบเนียนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ โดยเฉพาะบ้านหรืออาคารที่มีความสูงมากกว่า 1 ชั้นขึ้นไป อาจจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการทาสีภายนอก สำหรับวิธีการทาสีภายนอกที่เป็นที่นิยมจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ การทาสีภายนอกโดยใช้นั่งร้านและการทาสีภายนอกด้วยการโรยตัวทาสี การทาสีบ้านแบบทั่วไป โดยใช้นั่งร้าน การทาสีบ้านแบบทั่วไปโดยใช้นั่งร้านเป็นวิธีทาสีภายนอกที่ใช้โครงสร้างชั่วคราวเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงพื้นที่สูงและใช้ในการวางสิ่งของที่จำเป็น เมื่อใช้งานเสร็จสามารถถอดและเก็บออกได้ทันที อย่างไรก็ตาม การใช้นั่งร้านทาสีภายนอกเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับบ้าน/อาคารที่สูงไม่เกิน 1-2 ชั้น และต้องมีพื้นที่เหลือพอสมควรเนื่องจากต้องมีการติดตั้งนั่งร้าน โดยทั่วไปแล้วงานทาสีภายนอกจะนิยมใช้นั่งร้านไม้ไผ่ผูกติดกับอาคารหรือใช้ไม้ค้ำยันภายนอกมากกว่านั่งร้านสองขาหรือนั่งร้านเหล็ก นอกจากสภาพสถานที่และความสูงแล้ว การใช้นั่งร้านเพื่อทาสีภายนอกยังต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อาทิ …

โรยตัวทาสี กับ ทาสีแบบทั่วไปโดยใช้นั่งร้าน แบบไหนกันที่เหมาะกับคุณ ?? อ่านต่อ »

Big Cleaning หมายถึง การทำความสะอาดบ้าน อาคาร หรือสถานที่ครั้งใหญ่ประจำเดือน ประจำไตรมาส หรือประจำปี โดยเป็นการทำความสะอาดบริเวณต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ทำความสะอาดห้องทุกห้อง ทุกพื้นผิว และจัดระเบียบข้าวของให้เข้าที่ การทำความสะอาดแบบ big cleaning สามารถทำได้ทั้งที่พักอาศัย สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าไปจนถึงการทำความสะอาดโกดัง คลังสินค้า โดย big cleaning ยังรวมถึงการทำความสะอาดครั้งใหญ่หลังจากงานก่อสร้างหรือตกแต่ง การทำความสะอาดก่อนเข้าอยู่และการทำความสะอาดสถานที่ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยมาเป็นระยะเวลานาน นอกจากจะทำให้บ้านหรือสถานที่สะอาดหมดจด มีสุขลักษณะที่ดี มีระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูบรรยากาศและปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยหรือการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลต่อสภาพจิตใจที่แจ่มใส อารมณ์ดี มีความปลอดภัยในการอยู่อาศัยและทำงาน “Big cleaning” แตกต่างจากแม่บ้านรายวันยังไง ? แม้ big cleaning จะเหมือนกับแม่บ้านรายวันตรงที่เป็นการทำความสะอาดเหมือนกัน แต่แม่บ้านรายวันเป็นเพียงการทำความสะอาดทั่วไป เช่น ปัด กวาด เช็ด ถู ดูดฝุ่น ล้างห้องน้ำ นำขยะไปทิ้ง เป็นต้น ส่วน …

Big Cleaning คืออะไร ? อ่านต่อ »

ปัญหาน้ำซึมผนังบ้านหรือน้ำซึมกำแพงบ้านเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในหน้าฝนหรือช่วงที่มีฝนตก น้ำก็มักจะซึมเข้ามาจนกลายเป็นคราบน้ำตามกำแพงและผนัง ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างความรำคาญและความไม่น่ามอง ทำให้สถานที่ดูเก่าโทรมแล้ว ยังอาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ เช่น พื้นหรือผนังมีความชื้นจนเกิดเชื้อราหรือตะไคร่ ฟิล์มสีลอกล่อน วัสดุกรุผิวโป่งพอง ไปจนถึงโครงสร้างอาคารที่เสียหายเนื่องจากเหล็กเสริมในคอนกรีตเป็นสนิม สาเหตุ น้ำซึม ผนังบ้าน มีอะไรบ้าง ? ปัญหาที่น้ำซึมจากผนังข้างบ้านหรือน้ำซึมกำแพงบ้านเกิดจากสาเหตุหลายประการ สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ รอยแตกร้าวของปูนฉาบ หากน้ำที่ซึมมีสาเหตุมาจากฝน เป็นไปได้ว่าผนังหรือปูนฉาบภายนอกมีรอยแตกร้าวหรือรอยแยก เนื่องจากการใช้ปูนฉาบที่ไม่มีคุณภาพ ช่างไม่มีความชำนาญ หรือวิธีการก่อสร้างไม่ถูกต้อง หรืออาจเกิดจากการเจาะผนังหรือกำแพงเพื่อยึดหรือติดตั้งโครงเหล็กต่าง ๆ อาทิ กันสาด ระแนง หรือขาวางคอยล์ร้อนของเครื่องปรับอากาศตามจุดต่าง ๆ ทำให้น้ำฝนสามารถแทรกซึมเข้ามาจนส่งผลให้สีทาผนังภายในบวมพอง ซึ่งรอยแตกร้าวเหล่านี้จะสังเกตเห็นไม่ยาก เพราะจะอยู่บริเวณกลางผนัง บริเวณแนวคานของอาคาร หรือบริเวณที่มีการเจาะยึด ช่องว่างระหว่างวงกบประตู-หน้าต่างกับผนัง ช่องว่าง รอยร้าว รอยต่อระหว่างวงกบประตูและหน้าต่างกับผนังก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำซึมผนังบ้านได้ ในกรณีที่น้ำซึมผนังบ้านตามแนวขอบเฟรมกระจกอาจเกิดจากยาแนวเดิมเสื่อมสภาพ หรือเกิดจากการตัดเฟรมอะลูมิเนียมที่ไม่ได้ฉากหรือตัดไม่เข้ามุมหรือติดตั้งไม่สนิทดี หากเป็นวงกบไม้ก็อาจเกิดจากสภาพอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงทำให้วงกบยืดหดตัวจึงทำให้ปูนไม่ประสานเป็นเนื้อเดียวกันจนทำให้เกิดปัญหาน้ำซึมจากผนังข้างบ้านหรือน้ำซึมกำแพงบ้านได้ หากปล่อยทิ้งไว้ให้รอยแตกขยายจะทำให้บานประตูหน้าต่างตกร่อง ปิดได้ไม่สนิท หรือติดขัดได้ ขั้นตอน การแก้ไข น้ำซึมผนังบ้านเบื้องต้น ที่คุณเองก็ทำได้ ? ก่อนอื่นควรทราบก่อนว่าปัญหาน้ำซึมผนังบ้านเกิดจากสาเหตุใดเพื่อให้สามารถแก้ไขได้ตรงจุด หากทราบแล้วก็สามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อแก้ไขน้ำซึมผนังบ้านเบื้องต้นได้เลย …

น้ำซึมผนังบ้านเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไร ? อ่านต่อ »

ดาดฟ้าเป็นพื้นที่เปิดที่สามารถใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลายตั้งแต่การตากผ้า ชมวิว ไปจนถึงจัดปาร์ตี้ และยังเป็นหนึ่งจุดในบ้านที่มักพบปัญหาได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะปัญหาดาดฟ้ารั่วซึม แตกร้าว ยิ่งช่วงที่มีฝนตกหนักหรือพายุเข้าก็ยิ่งสร้างปัญหา เช่น น้ำขังและรั่วซึมให้เจ้าของบ้าน/อาคารต้องปวดหัว และหากพบสัญญาณของปัญหาดาดฟ้ารั่วซึม แต่ยังชะล่าใจหรือปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในที่สุด เพราะเป็นไปได้ว่าน้ำจะซึมลงสู่พื้นผิวและกัดเหล็ก ทำให้โครงสร้างของอาคารเสียหายได้ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว หากปัญหาไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก คุณเองก็สามารถซ่อมดาดฟ้ารั่ว แก้ไขดาดฟ้ารั่วซึมได้ด้วยตนเองด้วยวิธีง่าย ๆ ดาดฟ้ารั่วซึม เกิดจากอะไร ? ปัญหาดาดฟ้ารั่วซึมเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ เช่น การรั่วซึมบริเวณหัวน็อต รอยต่อระหว่างกระเบื้อง รอยต่อของผนัง รอยแตกร้าวของปีกนก การใช้วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน การเทและการบ่มคอนกรีตที่ไม่ถูกวิธี ดาดฟ้าไม่มีระบบกันซึมหรือระบบกันซึมเสี่อมสภาพ การติดตั้งพื้นคอนกรีตไม่ได้มาตรฐาน หรือปัญหาจากแสงแดดและมลภาวะ ระบบระบายน้ำไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาน้ำท่วมขังที่ทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและอุณหภูมิที่ทำให้คอนกรีตยืดหดจนเกิดการแตกร้าว รวมถึงการที่พื้นมีความลาดไม่เหมาะสม ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหารอยแตกร้าวและดาดฟ้ารั่วซึมได้แทบทั้งสิ้น วิธีแก้ปัญหา ดาดฟ้ารั่ว เบื้องต้น สำหรับการแก้ไขดาดฟ้ารั่วซึมในเบื้องต้นควรเริ่มจากการสังเกตหาจุดที่มีการรั่วซึมและต้นตอที่ทำให้เกิดการรั่วซึมดังกล่าวเพื่อให้สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด โดยจะแบ่งเป็นการแก้ไขดาดฟ้ารั่วซึมบริเวณรอยต่อโครงสร้างอาคารและแก้ไขดาดฟ้ารั่วซึมกลางอาคาร รอยต่อโครงสร้างอาคาร สังเกตได้จากรอยคราบน้ำตามมุมห้องหรือบริเวณรอยต่อระหว่างผนังและคาน สามารถซ่อมได้โดยการใช้วัสดุทากันซึมประเภทซิลิโคน โพลียูรีเทน หรือวัสดุกันซึมอื่น ๆ ที่เหมาะกับพื้นผิวเพื่ออุดหรือปิดช่องว่างระหว่างรอยต่อนั้น ๆ เริ่มจากการล้างและขัดคราบดำหรือตะไคร่น้ำให้สะอาด …

วิธีแก้ปัญหา ดาดฟ้ารั่ว น้ำซึมดาดฟ้า ง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้ อ่านต่อ »

สภาพแวดล้อมในปัจจุบันและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคร้ายอย่าง COVID-19 ได้ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องของการทำความสะอาดที่เข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่สาธารณะที่ต้องมีการใช้งานร่วมกัน ลิฟท์เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกอีกอย่างหนึ่งที่หลาย ๆ หน่วยงานและองค์กรหันมาให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิดและมีการสัมผัสโดยผู้ใช้งานมากหน้าหลายตาบ่อยครั้งในแต่ละวัน ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะเป็นพื้นลิฟท์ ผนัง ราวจับ กระจก หรือแม้แต่บนพื้นผิวของปุ่มต่าง ๆ การทำความสะอาดลิฟท์จึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำความสะอาดที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ซึ่งไม่เป็นไปเพียงแค่ความปลอดภัยส่วนบุคคลของแขกผู้มาเยือนเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานในองค์กรเช่นกัน การทำความสะอาดลิฟท์ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของลิฟท์ เจ้าของอาคาร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลสถานที่ที่ต้องยกระดับการทำความสะอาดลิฟท์ให้เป็นหนึ่งในกิจวัตรการทำความสะอาดที่ควรดำเนินการทุกวัน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการดูแลด้านความสะอาดและรักษาสุขอนามัยที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ผู้มาเยือน รวมถึงพนักงานทุกคนในองค์กร อย่างไรก็ตาม การทำความสะอาดลิฟท์ไม่ได้เป็นเพียงการถูพื้นหรือใช้ผ้าเช็ดตามพื้นผิวต่าง ๆ เท่านั้น แต่การทำความสะอาดลิฟท์ที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพจะต้องมีการดำเนินการอย่างถูกวิธีอีกด้วย ขั้นตอนการทำความสะอาดลิฟท์ (Lift) ลิฟท์ส่วนใหญ่มีโครงสร้างที่ทำขึ้นจากสแตนเลส ซึ่งเป็นโลหะที่มีความทนทานสูง จึงอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษามากนัก นอกจากการทำความสะอาดอย่างถูกวิธีเพื่อนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ ปลอดภัย และมีสุขอนามัยที่ดี เพราะจะเห็นได้ว่ามีผู้คนใช้ลิฟท์และโดยสารลิฟท์จำนวนมากในแต่ละวัน การทำความสะอาดลิฟท์อย่างละเอียดเป็นประจำจะช่วยชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียได้ การทำความสะอาดร่องธรณี ร่องธรณีของประตูลิฟท์มักเต็มไปด้วยฝุ่น เศษผง และเศษขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้แต่ก้อนหินขนาดเล็ก คุณสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกเหล่านี้ จากนั้น จึงทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำยาและเช็ดในร่องธรณีประตู และเช็ดซ้ำอีกครั้งด้วยผ้าแห้ง การทำความสะอาดบ่อลิฟท์ …

ทำความสะอาดลิฟท์ อย่างถูกวิธี เพิ่มสุขอนามัยที่ดีสู่องค์กรของคุณ อ่านต่อ »

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยเป็นมหานครที่เป็นศูนย์รวมของทุกภาคส่วนทั้งระบบราชการ พาณิชย์ การธนาคาร สาธารณูปโภค บริษัทเอกชน ตลอดจนเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม จึงดึงดูดให้ประชากรจากทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามาอาศัยและทำงานเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยและพื้นที่ประกอบกิจการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบัน กรุงเทพฯ มีอาคารสูงที่มีความสูงเกิน 23 เมตร หรือมากกว่า 8 ชั้นขึ้นไป จำนวน 2,810 อาคาร โดยอาคารที่สูงที่สุด ได้แก่ “แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนเซส แอท ไอคอนสยาม” ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 317.95 เมตร ทำลายสถิติเดิมของตึก “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ที่มีความสูงอยู่ที่ 314 เมตร ตึกสูงระฟ้าเหล่านี้ได้กลายเป็นเครื่องชี้วัดความเจริญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ แต่สิ่งที่ตามมาจากการออกแบบผลงานชิ้นเอกของเหล่าสถาปนิก วิศวกร และ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ก็คือการก่อสร้างและการดูแลรักษาอาคารสูงที่ต้องอาศัยการรักษาความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและและเสี่ยงต่อการพลัดตกลงมาของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งอาจเห็นได้จากข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง บริการโรยตัวในประเทศไทย ปัจจุบัน การใช้บริการทีมโรยตัวในการทำงานความสะอาด หรืองานติดตั้ง งานซ่อมแซม งานบำรุงรักษาด้วยการโรยตัวเป็นบริการที่เป็นนิยมกันอย่างมาก เนื่องจากมีความสะดวก ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน …

การโรยตัวทำงานบนที่สูง งานไม่ง่ายที่ต้องอาศัยประสบการณ์ อ่านต่อ »

บ้านที่สะอาดน่าอยู่เกิดขึ้นได้จากการทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกบ้านจะต้องมีอุปกรณ์ทำความสะอาดติดบ้านไว้ การมีอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านที่ครบครันและพร้อมใช้อยู่ในบ้านจะช่วยทำให้การทำความสะอาดบ้านนั้นง่ายขึ้น ทำงานได้สะดวกสบายขึ้น อีกทั้งช่วยประหยัดเวลา แรงงาน นำมาซึ่งความสุขและสุขอนามัยที่ดี อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านที่จำเป็นและช่วยให้การทำความสะอาดบ้านของคุณง่ายขึ้นจะมีอะไรบ้างนั้น มาเช็คกันเลยว่าบ้านของคุณมีครบหรือยัง อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดบ้าน ไม้กวาด ไม้กวาดเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านที่ทุกคนต้องมี มีหลายชนิด เช่น ไม้กวาดดอกหญ้า ไม้กวาดพลาสติก ไม้กวาดยางพารา ไม้กวาดไนลอน เป็นต้น ประโยชน์: ใช้ปัดกวาดเศษขยะชิ้นเล็ก ๆ เศษผง ตลอดจนฝุ่นละอองบนพื้นที่แห้งและเรียบ ซึ่งใช้ได้ทั้งพื้นไม้ พื้นปาร์เก็ต พื้นซีเมนต์ พื้นหินอ่อน พื้นหินขัด พื้นกระเบื้อง   การเก็บรักษา: ตั้งเอาด้ามลงและพิงผนังไว้ หรือเจาะปลายด้ามไม้กวาดเป็นรู ร้อยด้วยเชือกแล้วแขวนไว้ในที่ที่หยิบใช้สะดวก หากเปียกหรือชื้น ควรตากแดดให้แห้ง ไม้กวาดขนไก่ มีลักษณะเป็นพู่ แต่เดิมทำจากขนไก่ ปัจจุบันมักทำจากขนไก่สังเคราะห์ มีด้ามจับเป็นหวายหรืือพลาสติก ปลายด้ามจับมักทำให้งอเพื่อใช้แขวน ประโยชน์: ใช้ปัดฝุ่นตามเครื่องเรือน ชั้นวางของ หลังตู้ เฟอร์นิเจอร์ กระจก บนโต๊ะ เก้าอี้ ขอบหน้าต่าง มู่ลี่ฯลฯ การเก็บรักษา: เคาะฝุ่นก่อนจัดเก็บ …

อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านที่สำคัญ และควรมีติดไว้ที่บ้าน อ่านต่อ »

เคยไหมที่ตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการเหล่านี้? ไอ จาม คัดจมูก มีน้ำมูกไหล มีเสมหะ เจ็บคอ คันตา ตาแดง คันผิวหนัง คันตามตัว เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของอาการแพ้ฝุ่นและไรฝุ่น และเป็นอาการของผู้ที่เริ่มต้นเป็นภูมิแพ้ ฝุ่น คือ วัตถุที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากที่ลอยอยู่ในอากาศ อาจเกิดจากควัน ดิน ทราย ท่อไอเสีย แป้ง ละอองเกสร เส้นใยผ้า กระดาษ เศษมูลของแมลงสาบ รวมไปถึงเซลล์ผิวหนังที่หลุดออกจากร่างกายมนุษย์และสะเก็ดผิวหนังสัตว์ ซึ่งมีขนาดเล็กมากจนสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านทางการหายใจและนำไปสู่อาการแพ้ ฝุ่นยังสามารถแพร่กระจายเข้าถึงบริเวณถุงลมและส่วนที่ลึกที่สุดของปอด เสี่ยงต่อการเกิดโรคอันตรายได้หลายชนิด ไรฝุ่น คือ สิ่งมีชีวิตจำพวกเดียวกับเห็บ มีรูปร่างกลมรี สีขาว มีขนาดเล็กเพียง 0.1-0.3 มิลลิเมตร จึงแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไรฝุ่นมักอาศัยอยู่ตามฝุ่นหรืออยู่ในที่มืดและอับชื้น เช่น ห้องนอน บนที่นอน ผ้าห่ม หมอน และเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ กินเศษผิวหนัง รังแคของมนุษย์ หรือซากไรฝุ่นด้วยกันเองเป็นอาหาร โดยไรฝุ่นยังสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมูลของไรฝุ่นพวกนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอ จาม รวมไปถึงผื่นคัน ผื่นแดงที่ผิวหนัง …

เคล็ดลับกำจัดไรฝุ่นในห้องนอน ให้หายเกลี้ยง ที่คุณเองก็ทำได้ อ่านต่อ »